เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น ประเทศไทยจึงมีมาตราการสำหรับผู้ป่วยชาวต่างชาติรวมถึงผู้ติดตามที่ประสงค์จะเข้ามารับการรักษาในราชอาณาจักรไทย ในกลุ่มการรักษาต่อเนื่อง การรักษาศักยภาพสูง และมีนัดหมายใช้มาตรการควบคุมการเข้าเมืองได้ อย่างไรก็ตามประเทศไทยยึดถือหลักการของ "จีนและไทยเป็นครอบครัวเดียวกัน" จึงมีมาตรการที่เป็นมิตรและอนุญาตให้ใช้วีซ่าตามปกติได้ เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินแล้วจะมีแอพพลิเคชั่นเพื่อใช้ติดตามตัว ตรวจวัดอุณหภูมิที่สนามบิน และเมื่อกักกันครบตามที่กำหนด 14 วันแล้วจึงจะสามารถเข้ารับการรักษาได้
ข่าวเกี่ยวกับ "การกักกันของไทย" เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ทำให้เกิดการค้นหาอย่างมาก
มีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทั้งจากสื่อมวลชนชาวไทย ชุมชนชาวจีนในประเทศไทยและผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ มาตราการนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อเดินทางมาถึงไทยรวมระยะเวลาทั้งสิ้น 15 วันและต้องกักกันตัวเป็นเวลา 14 วัน หมายความว่าแผนการที่จะเข้าสู่ประเทศไทยในอนาคตอันใกล้จะต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่?
ทำให้ชาวเน็ตรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการเดินทางของพวกเขาในวันที่ 3 มีนาคม เวลา 17:12 น. ตามเวลากรุงเทพฯ คำอธิบายนโยบายทั้งหมดในเอกสารนี้เกี่ยวกับการกักกันพิเศษ14วันไม่มีจึงถูกลบ
Chu Lai แพทย์จากกรมควบคุมและป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุขได้อธิบายเนื้อหาของเอกสารที่อัปเดต:
มาตการการกักกันตัวนี้ขึ้นอยู่กับผู้ที่มีความสมัครใจ ผู้ที่เข้ามาในประเทศไทยจาก 9 ประเทศและภูมิภาครวมถึงจีนไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือชาวไทยจะได้รับคำแนะนำให้ "กักตัวเอง" เป็นเวลา 14 วัน ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยสามารถอยู่ในโรงแรมแต่จะต้องแยกตัวเองอยู่ในห้องเท่านั้น คนไทยสามารถกักตัวเองได้ในที่อยู่อาศัยของแต่ละบุคคล สถานที่กักกันนั้นจะถูกจัดอย่างเป็นระบบและบังคับใช้โดยรัฐบาล
ผู้ที่มีสงสัยหรือมีอาการสามารถขอความช่วยเหลือจากสถาบันการแพทย์ของไทยและจะถูกนำไปกักตัวและสังเกตอาการที่สถาบันการแพทย์ที่รัฐบาลไทยกำหนด
จุดสำคัญ:
"การกักตัว 14 วัน" เป็นคำแนะนำไม่ใช่ข้อบังคับ
นโยบายกักตัวนี้สำหรับคนทุกเชื้อชาติ
กักตัวเองที่บ้าน ไม่สามารถออกมาข้างนอกได้
ไม่บังคับใช้ดังนั้นจึงไม่มีการลงโทษ
ดำเนินการตั้งแต่ 4 มีนาคมเป็นต้นไป
ชาวเน็ตบางคนที่เข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 มีนาคมกล่าวว่าจนถึงขณะนี้การเดินทางไปประเทศไทยยังไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากมาย ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติของประเทศไทยยังกล่าวอีกว่ากฎระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขนี้จะต้องใช้เวลา 1-2 วันในการพิจารณาและดัดแปลงเพิ่มเติม
จากมุมมองของนโยบายนี้อาจไม่เป็นที่น่ากลัวตามที่ทุกคนคิด อย่าพึ่งวิตกกังวลและเชื่อในข่าวลือจนเกินไป เราจะยังคงให้ความสนใจกับความรุนแรงของสถานการณ์และหากมีการเปลี่ยนแปลงของนโยบายเพิ่มเติมเราจะแจ้งเพื่อทราบอีกครั้ง
สถานการณ์การระบาดของโรคในประเทศไทยขณะนี้ได้ยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อแล้ว 43 รายและประเทศต่าง ๆ ได้ออกมาตราการมิให้ชาวจีนเดินทางเข้าประเทศชั่วคราว แต่ประเทศไทยยังเป็นทางเลือกแรกสำหรับคนที่จะเข้ามาทำเด็กหลอดแก้ว
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค ถ้าฉันต้องการจะทำเด็กหลอดแก้วมีวิธีการจัดการอย่างไรบ้าง?
เรามีมาตรการป้องกันโรคและทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเป็นประจำ
เจ้าหน้าที่ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา
CEF BANGKOK คลินิกเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และนรีเวชชั้นนำเปิดดำเนินงานตามปกติ
มีพยาบาลคอยดูแล เพื่อลดการออกนอกพื้นที่
คุณแม่ที่อาศัยอยู่ในมณฑลหูเป่ย์ที่วางแผนจะมาเมืองไทยเพื่อทำเด็กหลอดแก้วไม่ต้องกังวล คุณสามารถดูแลร่างกายของพวกคุณได้ที่บ้าน (ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ผู้หญิงสามารถแช่เท้าเพื่อผ่อนคลายได้)
หากคุณมีคำถามใด ๆ สามารถปรึกษามาที่ CEF ได้เราจะตอบคุณโดยเร็วที่สุด
สุดท้ายนี้ ฉันหวังว่าการแพร่ระบาดจะสิ้นสุดโดยเร็วที่สุดและฉันหวังว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว